1. Numbers
Numbers ในภาษาไพธอนนั้นจำแนกออกเป็น 5 กลุ่มหลักคือ
- Integer (int) เช่น 12345 หรือ 123456789 เป็นต้น
- Floating (float) เช่น 1.2345 หรือ 123.456 เป็นต้น
- Long integer (long) เช่น 9999999L (unlimited size) เป็นต้น
- Complex number (complex) จะประกอบด้วย real-part + imagery-part เช่น 3j หรือ 1.2j+3.4j เป็นต้น
- Octal ({ฐาน 8) or Hex (ฐาน 16) ใช้สำหรับระบุตัวเลขที่ต้องขึ้นต้นด้วย 0 (ศูนย์) สำหรับ Hex นั้นจำเป็นต้องขึ้นต้นด้วย 0x หรือ 0X เท่านั้น ไม่สามารถใช้เลขฐานสิบได้ ตัวอย่างของOctal/Hex เช่น 0x9ff เป็นต้น
- การบวก การลบ การคูณและการหาร เช่น x+y, x-y, x*y และ 3/2.0 เป็นต้น
- การเปลี่ยนเครื่องหมาย เช่น +x หรือ -x เป็นต้น
- การยกกำลัง เช่น x**y หรือ pow(x, y) เป็นต้น
- ในภาษาไพธอนนั้นมีการใช้กฏการมีลำดับที่เหนือกว่า (Precedence rule) สำหรับการใช้ตัวดำเนินการแบบผสม เช่น a+b*c การคำนวณจะเริ่มจากการนำค่าของตัวแปร b คูณกับค่าของตัวแปร c ก่อนแล้วจึงนำมาบวกกับค่าของตัวแปร a เป็นต้น
อักขระ (Strings) นั้นคือตัวอักษรหรือตัวเลขที่อยู่ในเครื่องหมาย single qoute ('.....') หรือ Double qoute (".....") เช่น 'Sawarin' หรือ 'My name is Sawarin' หรือ "Sawarin's book" เป็นต้น
การประมวลผล String ที่ใช้งานแพร่หลายแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักคือ
- Indexing เป็นการอ้างถึงตำแหน่งของอักขระในแต่ข้อความจากตำแหน่งเริ่มต้น (0) ไปจนถึงตำแหน่งสุดท้ายของข้อความ ในภาษาไพธอนนั้นสามารถอ้างอิงตำแหน่งจากส่วนท้ายของข้อความได้โดยเริ่มจากตำแหน่งที่ -1 เช่น
>>> myname[0]
'S'
>>> myname[-3]
'r'
- Slicing เป็นการตัดส่วนของข้อความที่ต้องการโดยการระบุตำแหน่งของอักขระที่ต้องการภายในเครื่องหมาย [....] เช่น myname[0:1] จะหมายถึง เลือกเฉพาะอักขระลำดับที่ 0 ถึง 1 (แต่ไม่รวม 1) จะได้ 'S' หรือ myname[4:] จะหมายถึง เลือกเฉพาะอักขระลำดับที่ 1 ถึงอักขระตำแหน่งสุดท้าย จะได้ 'rin' หรือ myname[:-1] จะหมายถึง เลือกเฉพาะอักขระลำดับที่ -1 จากท้ายข้อความจนถึงอักขระตำแหน่งเริ่มต้น (ตำแหน่งที่ 0) จะได้ 'Sawari' หรือ owner = "Sawarin's book" แล้ว owner[:-5] จะได้ "Sawarin's" เป็นต้น
No comments:
Post a Comment